เคยสงสัยนะ ว่าถ้าเราตัดสินใจคุยกับใครสักคน ที่เราเริ่มรู้สึกว่าเราเปิดใจให้เขาเข้ามาในชีวิต แต่มารู้อีกทีว่า
อีกคนคุยอยู่กับหลายคน ความรู้สึกของเราควรจะโอเคไหม? เราควรใจกว้าง เผื่อใจให้เขาได้เลือกคนอื่น
หากดูกันไปแล้วเราไม่ใช่ หรือ มันเป็นสิ่งที่เขาไม่ควรทำ เพราะมันเป็นการไม่ให้เกียรติกัน ถ้าเราคุยกับเขาคนเดียว
เขาก็ควรคุยกับเราคนเดียว คุยเป็นคนคนไป ใช่หรือเปล่า ในจุดที่ถอยออกมามองในภาพรวม เราได้ข้อสรุปว่า
ในจุดเริ่มต้นของความรักที่ดี คือเรื่องของความไว้ใจ ถ้าเราตัดสินใจมองอนาคต นึกถึงชีวิตคู่ที่ไม่อย ากล้มเหลว
เมื่อเราเริ่มต้นจะศึกษาใครซักคนอย่ างจริงๆจังๆ เราควรพิสูจน์ให้เขาเห็นได้ ว่าถ้าเขาเลือกเรา เขาจะเจอคนรักที่ดี
ถ้าอีกคนไม่แสดงให้เห็นถึงความน่าไว้ใจในวันที่ศึกษากันอยู่ เราจะเอาความรู้สึกตรงไหนไปมั่นใจ ว่าถ้าเราเลือกเขา
แล้วเขาจะไม่นอกใจ จริงมั้ย?มันไม่ใช่เรื่องของ สถานะ ว่าคุณตกลงคบหรือไม่ แล้วอีกคนมีสิทธิ์อะไรแค่ไหน
แต่ก่อนคบยังไงมันก็ต้องพิสูจน์กันและกัน ถ้าเราอย ากมีความรัก มีคนรักที่ดี ไม่คบใครเล่นๆ การที่เค้าคบคนอื่น
แล้วก็คบเราไปด้วย…นั่นหมายความว่า เขาไม่ได้รักเราอย่ าง แท้จริง แถมไม่จริงใจอีก เพราะเค้าเห็นเราเป็นเพียงตัวเลือก
ซึ่งเราอาจเป็นได้ทั้งฝ่าย..ถูกเลือก..ไม่ถูกเลือก เมื่อรู้อย่ างนี้แล้ว เราควรเดินถอยออกมา อย่ าลดคุณค่าตัวเอง
โดยการเอาหัวใจของเรา…เข้าไปเป็นตัวเลือกในชีวิตใคร …ความรู้สึก หัวใจ และหยดน้ำตาของเรามีค่า
ไม่ควรที่จะเสียมันให้กับคนที่ไม่มีความจริงใจ อย่ าวางหัวใจของเรา ไว้ในมือของคนที่ไม่เคยเห็นคุณค่า
เพราะสุดท้าย…คนที่เ จ็ บ ป ว ดที่สุด คือตัวของเราเอง
1 : บางครั้ง… ความรักอาจไม่ได้เข้ามาเพื่อ “คงอยู่” แต่เข้ามาเพื่อให้เราได้ “เรียนรู้” และ “เติบโต”
2 : “ข้อดี” คือสิ่งที่ดึงดูดคนสองคน… เข้าหากัน แต่การเข้าใจและยอมรับใน
“ข้อเสีย” เท่านั้น ที่จะทำให้คนสองคน ไม่เดินหนีจากกันไป
3 : เมื่อความรักจบ…ขอให้นิ่งสงบแล้วพิจารณาตัวเองเสียก่อนอย่ าเพิ่งรีบร้อนคบใครเพราะแค่
“อย ากลืมคนเก่า” เพราะนั่นคือการก้าวเข้าไปอยู่ในความสัมพันธ์ใหม่ ด้วย “คุณภาพของใจ” ที่เท่าเดิม
4 : แม้แต่ “หัวใจตัวเอง” เรายังบังคับให้หยุดเต้นไม่ได้ แล้วจะไปบังคับ “หัวใจคนอื่น” ให้มาเต้นเพื่อเรา ได้อย่ างไร
5 : “ความเข้าใจ” คือ “ลมหายใจ” ของความรัก
6 : คนที่เราเลือกจะรักและใช้ชีวิตอยู่ด้วย ไม่ใช่คนที่เราหาข้อเสีย “ไม่ได้” แต่คือคนที่มีข้อเสียซึ่งเรา “รับได้”
7 : “มีคู่” ก็ดี… เพราะมันเเปลว่าเรากำลังอยู่อย่ างไม่เดียวดาย “ไม่มีคู่”
ก็ดี…เพราะมันเเปลว่าเรากำลังอยู่คนเดียวได้ “อย่ างมีความสุข”
8 : คนบางคนผ่านเข้ามาเพื่อให้เรารัก ส่วนคนบางคนผ่านเข้ามาเพื่อสอนให้เรารู้จักที่จะรักตัวเอง
9 : ยิ่งเรา “รักตัวเอง” อย่ างเเท้จริงมากเท่าไร เราก็จะยิ่งยอมให้ “คนอื่นหลอก” น้อยลงเท่านั้น
10 : ความรักที่ดีต้องทำให้เรารู้สึก “เติมเต็ม และ เติบโต” ไม่ใช่ “ตกต่ำ”
11 : เวลาเลิกกับใครอัตราความ “เ จ็ บ ใจ” จะแปรผันตามอัตรา “ความสุข” ที่เราไปฝากไว้ให้อีกฝ่ายควบคุม
12 : ในย ามที่เรากำลังมอบ “ความรัก” ให้ใครสักคนเราไม่เคยรู้สึกสงสัยหรือสับสน ว่าชีวิตนี้ “เกิดมาเพื่ออะไร”
13 : “ความรัก” อาจไม่ใช่การนั่งมองตากันทั้งวัน แต่คือการมองไปที่ “ขอบฟ้าแห่งความฝัน” ซึ่งหลอมรวมเราเป็นหนึ่งเดียว
14 : ถ้าอย ากประสบความสำเร็จในความรักจงเลิก “ฝืนใจคนอื่น” ถ้าอย ากประสบความสำเร็จในชีวิต จงหัด “ฝืนใจตัวเอง”
15 : ย ามมีคู่… หมั่นเรียนรู้ความรักย ามอกหัก…หมั่นเรียนรู้ความจริง
16 : “คู่ชีวิต” ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่ ” สมบูรณ์แบบทุกอย่ าง ” แต่เป็นคนที่เราอยู่ใกล้แล้วรู้สึกว่าทำให้ ” ทุกอย่ างสมบูรณ์ ”
17 : ในวันที่ใจเธอไร้รัก…ไฉนโลกจึงหมดสิ้นซึ่งสีสัน เธอจะเรียกร้องรักจากใครกัน…เมื่อในใจเธอนั้นยังไม่มี
เมื่อไม่รู้วิธีที่จะให้… แล้วจะมาขอสิ่งใดในวันนี้ รักที่ดีเริ่มจากรักที่เธอมี… เต็มล้นปรี่จนพร้อมพลีเผื่อผู้คน
18 : บางครั้ง… ความรักผ่านเข้ามาในฐานะ “พรจากสวรรค์” บางครั้ง… ความรักผ่านเข้ามาในฐานะ “ครูผู้สอน” เมื่อความรักเป็น “พร”
อย่ าลืม “ขอบคุณ” …แล้วเราจะมีความสุขยิ่งขึ้น… เมื่อความรักเป็น “ครูผู้สอน” อย่ าลืม “เรียนรู้”…แล้วเราจะมีความทุกข์น้อยลง
19 : ความรัก คงดีตรงที่มันสามารถย่อขนาดจักรวาลอันกว้างใหญ่ ให้เหลือพื้นที่เท่าใจเพียงสองดวง…
20 : รู้จักความรัก… แต่ไม่รู้จักความไม่แน่นอนก็ต้องเจอกับความทุกข์… อย่ างแน่นอน
คนตาบอดคลำดูแล้วบอกว่า… ” มันเป็นแค่ก้อนหิน “เพราะเขามองไม่เห็นคุณค่าของสิ่งที่อยู่ในมือ
คนตาดี และ ตาถึง จะมองเห็นเป็น ” เพชรที่มีคุณค่า “ที่ควรรักษาและถนอมไว้