เวลาคนที่เรารักกัน คงไม่อย ากจากกันหรอกแต่อะไรจะเกิดขึ้น หากอยู่ ๆ คนที่เรารักจากเราไป ?
สำหรับคุณแล้ว แตกต่างกันหรือไม่ระหว่าง..คนที่คุณรักกำลังจะจากไป กับ คนที่คุณรักจากไปแล้ว ?และระหว่าง
จากไปเพราะสิ้นรักในตัวคุณกับ จากไปเพราะเ สี ย ชี วิ ตทั้ง ๆ ที่ยังรักคุณอยู่
แต่ไม่ว่าคำตอบจะเป็นอย่ างไร คงจะสร้างความเ จ็ บ ป ว ดในหัวใจให้แก่คุณเป็นแน่ ใช่ไหมครับ ?
ถ้าคนที่คุณรักกำลังจะจากคุณไป และคุณยอมทุ่มเททำดีจนชนะใจได้เขากลับคืนมา เรื่องนี้ก็คงจบแบบมีความสุข
แต่หากว่าคุณพย าย ามทำทุกอย่ างเท่าที่มนุษย์คนหนึ่งจะทำได้แล้ว และยังไม่ได้ผล
ก็เห็นทีต้องแนะนำหนทางสุดท้าย ให้พึ่งพิงพระเจ้า ผู้ทรงเป็นแหล่งปัญญาและความรัก
คุณต้องขอสติปัญญาจากพระองค์ในการที่จะนำคนที่คุณรักกลับคืนมา บางทีคุณอาจจะต้อง
ทำหลายอย่ างที่คุณไม่เคยทำมาก่อน แต่เป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงบัญชาให้กระทำ
อาทิ ฟังคนที่คุณรักพูดอย่ างต่อเนื่อง โดยไม่ขัดหรือแก้ตัวเลย, พูดจาหวาน ๆ อย่ างที่เขาหรือเธออย ากจะได้ยิน
ยอมรับผิดให้ง่าย และให้เร็วกว่าที่ผ่าน ๆ มา ฯลฯ ผมเชื่อมั่นว่า ถ้าคุณรู้จักใช้ปัญญาในการเอาชนะใจคนรักของคุณ
ด้วยความรักและความถ่อมใจ คุณจะได้คนที่คุณรักกลับคืนมา หากว่าเขายังรักคุณอยู่
แต่หากว่าทุกอย่ างสายเกินไปแล้ว คุณคงต้องทำใจ
ดังที่ คุณ สุจิตต์ วงษ์เทศ เคยคร่ำครวญว่า …“เมื่อรักกันไม่ได้ ก็ไม่รักไม่เห็นจักเกรงการสถานไหนไม่รัก ก็จัก ไม่รักใครเอ๊… น้ำตาไหล ทำไมฤา”
ส่วน โทมัส วัตสัน เคยฟันธงว่า “ความรัก คือ ความปรีดีที่แสนเปรี้ยว ความเศร้าสร้อยที่แสนหวาน ที่มีชีวิต และ ชีวิตที่กำลังจะจากไ ป ”
แต่ความรักแท้จะเป็นดุจแสงอาทิตย์ ที่สาดส่องไปทั่ว ไม่มีเงาแห่งความพรากจาก หรือสิ่ง ใด ๆ จะมาบดบังแสงแห่งรักแท้ได้
ถ้าคุณรักใครสักคนจริง ๆ คุณจะรับได้ แม้ว่าจะไม่ได้จบลงที่การแต่งงาน หรืออยู่ร่วมกันจนวันสุดท้ายของชีวิต
เพราะ รักแท้ไม่จำเป็นต้องจบลงอย่ างเป็นสุข เนื่องจากรักแท้นั้นไม่มีจุดจบและรักแท้ คือการให้ (เสียสละ) ไม่ใช่การได้มา
หากว่าคุณจะต้องสูญเสียรัก (ชั่วคราว) ไป ก็ให้ถือคติว่า … “มีความรักแล้วสูญเสียไป ก็ยังดีกว่าไม่เคยมีความรักเลย”
หรือบางต้องถือเสียว่า “รักแท้ คือ การเสียสละ รักอมตะ คือ รักข้างเดียว”
ดังนั้น ถ้าคุณรักใคร แล้วเขาจากไป จงเริ่มต้นใหม่อย่ างมีความสุขกับรักใหม่ที่รออยู่ข้างหน้าจะดีกว่า