(ข้อคิดดีๆจากเศรษฐี) แค่เงินหนึ่งร้อย ก็สามารถเปลี่ยนชีวิตแย่ๆ ให้ดีได้
เรื่องนี้มันมีอยู่ว่า ชายผู้หนึ่งตกงาน และได้พาลูกชายตัวน้อยๆ ของเขานั่งรถประจำทางและนั่งไปเรื่อยๆ ไม่มีจุดหมาย
และพอถึงตอนเที่ยง ก็ได้พาลูกลงจากรถเดินเข้าร้านอาหารตามสั่ง เมื่อเปิดกระเป๋าตังค์เขากลับพบว่ามีเงินติดตัวอยู่
เพียง 10 บาท มันจึงไม่พอที่จะซื้อข้าวให้ลูกกิน และเขาบ่นพึมพำกับตัวเองเสมอว่าชีวิตมันจะรันทดอะไรปานนี้ และ
จู่ๆเขาก็หันไปพบกับเศรษฐีอ้วนในชุดสูท ดูเป็นคนใจดีเขากำลังเดินผ่านมาชายคนนี้จึงรีบปรี่เข้าไปหาอย่ างไม่รีรอ
และพูดว่าพี่ชายๆผมขอเงิ นสักนิดได้ไหม พอให้ผมได้พาลูก
ไปกินข้าวได้ไหมครับ ตอนนี้ไม่มีตังค์เหลือเลย เศรษฐีตกใจเ พ ร า ะถูกทัก โดยไม่ทันตั้งตัว และพอจับใจความได้
ก็ยิ้มให้พร้อมตอบว่านี่นะ..ก่อนที่จะให้ตังค์น้อง พี่ถามอะไรหน่อยได้หรือไม่ชายตกงานเขา ดีใจมาก รีบรับคำทันที
“ถามได้เยอะๆเลยครับ” และเศรษฐีก็ถามว่า“ทำไมกันน้องจึงไม่ลองหางานใหม่ ที่มันพอได้เงิ นมาเติมในบัญชี
บ้างล่ะ”ชายตกงานเขาก็ได้ทำหน้าเศร้า เมื่อได้ยินคำถามนี้และเขาเองก็กำมือลูกชายแน่นพูดออกไปว่า
“ชีวิตของผมนั้น เจอมรสุมครับพี่ ผมตกงานจากบริษัทที่ผมทุ่มเททำงานให้เขา และภรรย าผมหนีกลับไปอยู่บ้าน
พ่อเธอไม่พอใจ ที่ผมไม่มีเวลาให้และจากนั้น เงิ นในบัญชีผมก็หมดไปกับอะไรต่างๆมากมาย และตอนนี้ผมรู้สึก
หมดไฟ คงไม่มีค่าพอจะเริ่มงานใหม่ได้”
และจากนั้นน้ำตาของเขาก็คลอ เศรษฐีเห็นแบบนั้นก็ควักเ งิน 100 บาทออกจากกระเป๋ามาถือไว้ในมือและก่อน
จะพูดปลอบว่าใจเย็นนะ พี่พอเข้าใจแต่ว่าขออีกอย่ างได้ไหม พี่ขอคุยกับเจ้าห นูนี่ได้มั้ย“ได้ครับ”ชายตกงาน
รับคำ ก่อนจะหันไปบอกกับลูกชายวัย 5 ขวบของเขาว่า“พีซห นูคุยกับลุงอย่ างสุภาพนะครับลูก” “ครับพ่อ”
เด็กชายตัวเล็กเงยหน้ามองเศรษฐี และเศรษฐียิ้มให้จากนั้นก็เริ่มคุยกัน “ชื่อพีซใช่ไหมครับ ชื่อห นูน่ะ ลุงชื่อ
แดนนะ”“ครับคุณลุงแดน” เด็กชายตอบห นูช่วยทำอะไรง่ายๆให้ลุงได้มั้ยครับ
เพียงตอบอะไรสักอย่ างก่อน”“ได้ครับลุงแดน” เด็กชายยิ้มน่ารักพีซรู้มั้ยครับว่า เนี่ยเรียกว่าอะไร เศรษฐีนั่งย่อตัว
เท่ากับเด็กก่อนจะชูแบงค์สีแดงในมือขึ้นมา “แบงค์สีแดงเ งิน 100 บาทครับ”“ห นูอย ากได้ไหมล่ะ” เศรษฐีถาม
เด็กชายเงยหน้ามองพ่อที่เฝ้าดูเหตุการอยู่ และหันกลับมาตอบเศรษฐีว่า “อย ากได้ครับ
เ พ ร า ะพีซจะได้ไปซื้อข้าวผัด ให้พ่อทานครับ”ชายตกงานได้ยินแบบนั้น ทำให้น้ำตาคลอเบ้าอีกครั้งและเศรษฐี
แหงนหน้ามองชายตกงาน จากนั้นก็ได้พูดว่าน้องชายนายจงตั้งใจดูให้ดีๆและก็หันกลับมาสบตาน้องพีซอีกครั้ง
“น้องพีซครับ ลุงมีเกมให้เล่น เรียกว่าถามปุ๊บตอบปั๊บกติกาง่ายๆแค่ตอบว่าอย ากได้หรือไม่อย ากได้ก็พอ” พีซ
ก็พยักหน้าและทำท่าทางจริงจัง เศรษฐีเริ่มยืนตัวตรงชูแบงค์ร้อยขึ้นและถามคำถามที่หนึ่ง
“พีซห นูอย ากได้แบงค์ร้อยนี้ไหมครับ” เด็กชายพยักหน้าแล้วตอบว่า“อย ากได้ครับ” เศรษฐีหันมายิ้มให้ชาย
ตกงาน และกระซิบว่า“หากเกิดอะไรขึ้น ไม่ต้องวู่วามนะน้องชาย”และชายตกงานที่เฝ้าดูอยู่นั้นก็พยักหน้ารับ
แบบงงๆไป และทันใดนั้น สิ่งที่ไม่คาดฝันได้เกิดขึ้น
นั่นคือเศรษฐีขยำเงิ นแบงค์ร้อยเป็นกลมๆ แล้วโยนลงพื้น และได้ถามเด็กว่า“พีซยังอย ากได้เงิ นนี่อยู่ไหมล่ะ”
พีชก็ตอบว่า“อย ากได้ครับ”น้องตอบแบบไร้เดียงสา แต่ว่าสิ่งไม่คาดฝันครั้งที่สองเกิดขึ้นอีกครั้งเศรษฐีหยิบ
แบงค์ร้อยยับๆขึ้นมา และยังขยำหนักกว่าเดิมเข้าไปอีกเขาโยนมันลงพื้นอย่ างแรง พร้อมถามเด็กว่า“หนูยัง
อย ากได้มันอยู่มั้ย”น้องพีซหันไปมองหน้าพ่อที่กำลังตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ก่อนหันกลับมาตอบว่า
“อย ากได้ครับลุงแดน” และต่อมาสิ่งที่ไม่คาดฝันครั้งที่สามมันได้เกิดขึ้นอีกและครั้งนี้ มีเสียงดัง ทำเอาชาย
ตกงานหน้าถอดสี คนในร้านอาหารรวมถึงคนที่เดินผ่านไปผ่านมา ได้หันมามองกันหมด เ พ ร า ะเศรษฐีใช้
เท้ากระหน่ำกระทืบเงินยับๆซ้ำแล้วซ้ำอีกและสักพักเขาก็หันมาถามเด็กอีกว่าพีซยังอย ากได้มันอยู่ไหมลูก
เด็กชายมองด้วยแววตาใสซื่อก่อนยิ้มและตอบกลับว่า
“อย ากได้ครับลุงแดน” เศรษฐียิ้มแล้วย่อตัวลงมาเท่าเด็กแล้วพูดว่า“ห นูชนะเกมนี้แล้วนะ ลุงถามหน่อยสิ
ทำไมห นูจึงอย ากได้แบงค์ร้อยใบนี้มันสกปรกมากแล้วนะ” พีชตอบว่า“เ พ ร า ะมันยังเป็นเงิ นไงครับลุง”
เด็กชายตอบเศรษฐีลูบหัวน้องพีซ ก่อนลุกขึ้นถามชายตกงานว่า“นายน่ะได้อะไรจากเรื่องนี้บ้างล่ะ” ชาย
ตกงานตอบ“เอ่อคือผม”ชายคนนั้นยังตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่หายได้เพียงคว้ามือลูกมากำไว้แน่นเศรษฐี
เอามือแตะบ่าชายตกงานเบาๆแล้วพูดว่า“ใจเย็นๆนะเป็นพี่ก็ตกใจเหมือนกัน เดี๋ยวพี่เล่าเองนะ”
“ข้อคิดง่ายๆคือไม่ว่าเ งินนี้จะถูกกระทำอย่ างไร น้องพีซก็ยังอย ากได้เ พ ร า ะว่าคุณค่าของมันไม่ได้หาย
ไปไง” ชายตกงานเริ่มเข้าใจและสีหน้าเริ่มดีขึ้น“หมายความว่าที่พี่ชายทำคือ” “ใช่แล้วพี่กำลังให้น้องพีซ
ช่วยเตือนสตินายไงล่ะ”เศรษฐีกอดคอชายตกงานและชูเงิ นแบงค์ร้อยยับๆขึ้นมา แล้วพูดต่อว่า“บางที
ชีวิตเราก็ถูกทอดทิ้งถูกกระทำถูกขยำแล้วขยำอีกผ่านมรสุมชีวิตมามากจนเราต้องบอบช้ำใช่มั้ยไอ้น้อง”
เขามองหน้าชายตกงาน แล้วพูดไปว่านาย
“จำไว้นะชีวิตคนเรานั้น มันอาจมีช่วงตกต่ำแต่เราต้องไม่ลดคุณค่าของตัวเองนะ เ พ ร า ะคนเราก็เหมือน
กับแบงค์ร้อยยับๆไง และพี่เชื่อว่าทุกคน มีสิ่งที่ดีอยู่ในตัวแค่น้องสิ้นหวังเลย ไม่อย ากทำงานใหม่ๆ แต่
นั่นไม่ใช่ประเด็นแต่มันอยู่ที่น้องดูถูกคุณค่าของตัวเอง ฉะนั้นเนี่ยต่อไปนี้อย่ าดูถูกตัวเองอีกนะน้อง
เ พ ร า ะไม่งั้นชีวิตน้อง จะมีค่าน้อยกว่าเงิ นแบงค์ร้อยยับๆนี่ด้วยนะ”ได้ยินดังนั้นชายตกงาน รู้สึก
มีกำลังใจเขา ยกแขนเสื้อขึ้นมาเช็ดน้ำตาเขาจดจำคำสอนของเศรษฐี คนนี้ตลอดไปไม่มีวันลืม