แปลกแต่จริง บางคนยอมเป็นหนี้ เพื่อให้มีหน้าตาในสังคม
พอดีไปเห็นเพื่อน ถ่ ายรูปไป Party ในโรงแร ม 5 ดาวก็เลยนึกถึงว่า..ก่อนหน้านี้ เขามาปรึกษาเรื่องหนี้บัตรเครดิต
ว่าจะใช้ยังไงดี…?บางทีเรารู้ทั้งรู้ว่าเราใช้ชีวิตยังไงเราถึงเป็นหนี้“แต่เราก็ยังใช้ชีวิตแบบนี้กัน”อย่ างไรก็ตามการ
เป็นหนี้ ก็แม้จะเป็นเรื่องของเขาแต่บางเรื่องมันก็เกี่ยวกับเรา คือเมื่อมีปัญหาก็มาบ่นมาขอความช่วยเหลือมายืม
ตังไปปิดหนี้ เป็นต้น
การเป็นหนี้จึงไม่ได้เป็นภาระของคนๆ เดียว แต่…“สร้างภาระอื่นๆ ให้คนรอบข้างได้”(เราจึงมีสิทธิ์บ่นเช่นกัน 555)
พอมันเป็นอย่ างงี้นะ เราก็เลยตั้งคำถามว่า…“ทำไมคน ถึงต้องใช้เงินเพื่อโชว์ ไลฟ์สไตล์”เป็นไปได้ไหมว่า
โดยทั่วไปแล้ว คนเราต้องการ“ถูกยอมรับในสังคม”
เรื่องพวกนี้บางที เราแยกไม่ออกนะ เช่น เวลาที่เราต้องการจะซื้อกระเป๋า หรือนาฬิกาแบร น ด์ เนมซึ่งต้องจ่าย
“หลักแสนบาท” เราอาจจะบอกว่า…เราซื้อ เ พ ร า ะเราชอบ ซึ่งความชอบนั้นก็ไม่รู้ว่าชอบจริงๆหรือต้องการ
บอกสังคมว่าเราก็ชอบของแบบนี้เหมือนกันนะ อันนี้ต้องถามใจของแต่ละคนจริงๆ
บางทีคนเราก็อย ากจะแค่ถือถุง Hermes เดินเล่น ให้คนรู้สึกรวยก็มี…การถูกยอมรับ vs สถานะทางการเงิน
การถูกยอมรับทางสังคม มันสามารถแป ล ออกมา เป็นในรูปตัวเงินได้แต่สิทธินั้นมอบให้เฉพาะแค่คนมีเงิน
และแน่นอนว่า…คงไม่มีใครเบิกเงินจากธนาคารมากองให้คนอื่นเห็นว่าเรามีตังค์และน้อยคนคงจะเอาสมุด
บัญชีธนาคาร มาถ่ายรูปให้ดูว่า..ฉันรวยนะ เ พ ร า ะคนจะหมั่น ไ ส้ ได้
สิ่งที่คนคนมักจะทำกันก็คือการโชว์ ไลฟ์สไตล์ การบริโภคต่างๆซึ่งตรงนี้มันไม่ได้ให้สิทธิเฉพาะคนรวยเท่านั้น
แต่..มันมอบสิทธิให้กับ “คนที่ไม่มีตังค์” ด้วยสิทธิดังกล่าวนั้นได้มาไม่ย ากเลยในสมัยนี้แค่คุณมีบัตร เครดิต
บัตรกดเงินสดก็ได้ล่ะเอาเงินอนาคตมาใช้ก่อน แต่เขาไม่ให้ให้คุณใช้ฟรี มันมีต้นทุนที่ต้องจ่าย
อวดเงิน : คนรวยอวดได้
อวดชีวิต : คนรวย คนไม่รวย อวดได้หมด
จะว่าไปมันก็คือกับดั ก ของชีวิตอย่ างนึงเหมือนกันนะและสังคมก็พากันไปในแนวนี้ซะด้วยสมัยผมเรียนอยู่
มหาลัยนะ มันก็มีการล้อกันเรื่องการใช้มือถือรุ่นถูกๆ ทั้งๆ ที่คนล้อก็ขอเงินแม่มาซื้อเหมือนกันบางคนก็เก็บ
ตังเอง เพื่อให้ได้มือถือดีๆ ซึ่งนี่ล่ะที่ผมถามตัวเองว่า…เรากำลังเก็บเพื่อซื้อของที่ชอบ หรือของที่จะบอก
สังคมว่าเราชอบเหมือนกันคนที่มีเงินและสามารถรักษาความสามารถทางการเงินได้ ผมไม่ค่อยห่วงนะ
คุณจะใช้ ไลฟ์สไตล์ ยังไงก็ได้ตราบที่คุณมีเงิน…แต่ที่เป็นห่วงก็คือ…
1 : คนที่ไม่ได้มีเงินแต่ใช้ ไลฟ์สไตล์ เกินตัว
2 : คนที่มีเงิน แต่ไม่รู้ว่าระยะย าวเงินจะหมดตาม ไลฟ์สไตล์
3 : คนที่กำลังโตมา โดยไม่รู้ว่าตัวเองกำลังอยู่ในวงจรของการบริโภคนิยมและกำลังตื่นเต้นกับโลกมาย าแห่งนี้
เข้าใจยังว่าทำไมคนจำนวนมาก ยังหันหลังให้กับการออมเงิน ผมพูดไม่ผิดหรอก มันมีคนหันหลังจริงๆใช้เงินเก่ง
ผ่ อ น ทุ กอย่ าง เพื่อให้ชีวิตดูดีในทุกมิติมันจะดีมากกว่านี้ถ้าอย่ างน้อย คุณใช้ชีวิตไปด้วยและออมเงินไปด้วย
อันนั้นคือสิ่งที่ดี มันยังสร้างภูมิคุ้มกันในชีวิตได้แต่ถ้าใครสามารถแยกภาพมาย าคติของโลกสังคมอุปโภคนิยม
ได้โดยใช้ชีวิตแบบที่เราเป็นจริงๆตามฐานะและสถานะที่ตัวเองเป็นได้โดยไม่ต้องถีบให้ตัวเองสร้างให้ถูกการ
ยอมรับทางสังคมอันนี้คุณหลุดพ้นกับดักแล้วมันจะเจอเส้นทางไปสู่ความยั่งยืนทางการเงินได้แล้ว