1. เปิดบัญชีฝากประจำระยะย าว
หากเราเป็นคนที่ใจอ่อนกับตัวเอง วิธีการบังคับตัวเองให้ออมเงินอีกอย่ างคือการเปิดบัญชี
เงินฝากประจำระยะย าว อาจจะเริ่มที่ 5 ปีก่อน แล้วค่อยขยับขย ายก็ได้ค่ะ
วิธีการ: เปิดบัญชีเงินฝากประจำ เริ่มต้นที่ฝากประจำเป็นเวลา 5 ปี แล้วฝากเงินจำนวนเท่าๆ กัน
ในบัญชีนั้น ทุกๆ เดือน โดยใช้ระบบการตัดยอดเงินอัตโนมัติตามจำนวน และระยะเวลา
ที่เราต้องการแล้วนำฝากเข้าบัญชีฝากประจำทุกเดือนเพราะว่าบัญชีเงินฝากประจำ
เราจะไม่สามารถนำเงินออกมาได้จนกว่าจะครบกำหนดระยะเวลา การตั้งให้มีการตัดเงิน
โ อ น เงินอัตโนมัติจะทำให้เราไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องไปโ อ น เงิน หรือฝากเงินด้วยตัวเอง
ไม่ต้องทำบัตร ATM ด้วยค่ะ แค่นี้เราก็มีเงินเก็บทุกๆ เดือนแน่นอนแล้วค่ะ
2. ไม่ยึดติดแ บ ร น ด์ เ น ม
พวกเสื้อผ้า ของใช้ต่างๆ ไม่จำเป็นต้องใช้ของแ บ ร น ด์ เ น มก็ได้นะคะเลือกยี่ห้อ
ที่ราคาดีคุณภาพดี คุ้มค่ากับราคา ใช้งานได้นานๆ จะดีกว่าเลือกของแพงๆ เพราะจะได้ใช้แล้วดูดีค่ะ
วิธีการ: เลือกสินค้า ของใช้ที่คุณภาพ และความเหมาะสมของคุณภาพและราคา
โดยใช้จุดประสงค์ที่เราต้องการซื้ อ เป็นหลักหากเราเป็นนักธุรกิจ อาจจะลงทุ น
เพื่อสั่งตัดชุดทำงานชุดเก่งสัก 2 ชุดที่ดูดี เวลาเราต้องออกไปพบลูกค้า หรือหุ้นส่วน หรือเข้า
ประชุม ส่วนนอกจากนั้น อาจจะซื้ อ เสื้อโปโล หรือเสื้อเชิ้ตที่ดูดีไม่ได้ต้องแพง
ใส่วันทำงานธรรมดาแทนก็ได้ค่ะ ของแบบนี้มิกซ์แอนด์แมทช์ได้อยู่แล้ว ทีนี้ก็มีเงินเก็บได้อีกเพียบเลยค่ะ
3. พกเงินน้อยลง
หากเราเป็นอีกคนที่ใช้เงินเก่ง เก็บเงินไม่เก่ง มีเท่าไหร่ใช้ได้หมดเท่านั้น
แปลว่าเราเป็นคนพกเงินเยอะ ก็ใช้เยอะ แล้วถ้าพกเงินน้อยล่ะ?
วิธีการ: พกเงินติดตัวจำนวนน้อยกว่าที่เคย อาจจะใช้ระบบการคำนวณค่าใช้จ่าย
รายวันว่าเราใช้เงินต่อสัปดาห์เท่าไหร่แล้วพกพอดีเท่านั้น และคอยเตือนตัวเอง
ว่านี่คือเงินที่เราต้องใช้ทั้งสัปดาห์นะไม่ใช่ใช้หมดใน 1 วันแล้ว
ถอนเงินเป็นรายสัปดาห์แทนที่จะถอนเมื่อเงินหมด
ก็จะสามารถช่วยคุณออมเงินได้เช่นกันค่ะ
4. ลดค่าใช้จ่าย
วันๆ หนึ่ง คนทำงานต้องกินต้องใช้ กาแฟ ชา ขนม นม เนย ของขบเคี้ยวแก้ง่วงถ้าซื้อบ่อยซื้อประจำ
ก็เปลืองเงิน อะไรลดได้ก็ลดดีกว่าค่ะ ถือซะว่าเป็นการลดน้ำ ห นั ก ไปในตัวด้วยเลย
วิธีการ: ลดการซื้ อ ชา กาแฟ เปลี่ยนมาซื้ อ ชาเป็นกล่อง กาแฟผงชงเอง ลดปริมาณ
ขนมขบเคี้ยวที่รับประทานประจำวัน วางแผนอ า ห า ร การกินของตัวเองจริงๆ แล้วหากเรา
ทำกับข้าวเองอยู่แล้ว เราก็สามารถทำกับข้าวเพิ่มตอนกลางคืนแล้วนำที่เหลือใส่กล่องมารับประทาน
ที่ออฟฟิศแทนก็ได้นะคะ เป็นการลดค่าใช้จ่าย แถมได้กินคลีนกินอ า ห า ร ดีๆอีกด้วยค่ะ
แล้วก็ไม่ได้เป็นการเพิ่มสิ่งที่เราทำประจำวันแต่อย่ างใดเลยด้วยค่ะจริงๆ แล้วคนทุกคน
สามารถเก็บออมเงินได้ทุกคนนะคะ เพียงแค่เราจะต้องตั้งใจสร้างวินัยในการออมเงินของเรา
ให้ได้เสียก่อน ตั้งใจว่าจะเก็บเงินจริงจัง ตั้งเป้าหมายการออมเงินให้ตัวเอง
แล้วใช้เป้าหมายนี้ล่ะค่ะในการเตือนตัวเองเราก็จะสามารถเก็บออมเงินได้อย่ างแน่นอนค่ะ
ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จกับการออมเงินนะคะ มาสิขอเอาใจช่วยค่ะ
5. งดใช้บั ต ร เ ค ร ดิ ต
จำกัดการใช้บั ต ร เ ค ร ดิ ตเพื่อชำระค่าใช้จ่ายประจำเดือนเท่านั้น แทนที่จะใช้บั ต ร
เ ค ร ดิ ตในการซื้ อ สินค้าค่ะ
วิธีการ: ใช้บั ต ร เ ค ร ดิ ตเพื่อการชำระค่าใช้จ่ายรายเดือน เช่น ค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ
ค่าโทรศัพท์ ผ่ อ น สินเชื่อ หรือหากต้องซื้อสินค้าชิ้นใหญ่ ราคาแพง เช่น ต้องซื้ อ ตู้เย็นใหม่
เครื่องซักผ้า ฯลฯ ถึงใช้บั ต ร เ ค ร ดิ ตไม่ใช้บั ต ร เ ค ร ดิ ตในการช็อปปิ้งสินค้าฟุ่มเฟือย
หรือสินค้าจุกจิกค่ะ เพราะแบบนั้นจะทำให้เราเผลอใช้บั ต ร เ ค ร ดิ ตบ่อยมาก
ทำให้มียอดจุกจิกเต็มไปหมด แต่ยอดจุกจิกเนี่ยล่ะค่ะรวมๆ กันแล้วมันกลับเยอะ
เผลอๆ จะจ่ายไม่ไหวเอาก็จ่ายได้แค่ขั้นต่ำทำให้เราต้องเสียด อ ก เ บี้ ย ตามมา
ใช้แต่พอดีนะคะ จะได้มีเงินออมกันค่ะ
6.วิธีนี้ เป็นวิธีการเริ่มต้นง่ายๆ ของคนอย ากมีเงินออม
ใครๆ ก็ทำได้ เห็นผลง่ายแต่ต้องบังคับตัวเองไม่ให้เอาเงินส่วนนี้ไปใช้นะคะ
วิธีการ: เมื่อเงินเดือนออก แบ่ง 10% ของเงินเดือนเพื่อเป็นเงินออมทันที
และเงินก้อนนี้เพื่อการออมอย่ างเดียวเท่านั้นนะคะ ห้ามเอาออกมาใช้เด็ดขาด
ส่วนที่เหลือก็แบ่งเป็นส่วนๆ เพื่อจ่ายหนี้ จ่ายค่าใช้จ่ายรายเดือนต่างๆ
และใช้จ่ายประจำวันวิธีการออมเงินแบบนี้เป็นวิธีที่จะสามารถ
ช่วยเราสร้างวินัยในการออมเงินได้ค่ะ
7. เก็บแบงค์ 50 บาท
เป็นวิธีออมเงินที่ง่ายอีกอย่ างที่เราสามารถทำได้วันนี้เลยนะคะ เก็บแต่แบงก์ 50 บาทค่ะ
วิธีการ: ได้แบงก์ 50 บาทมาเมื่อไหร่ เก็บเมื่อนั้น ซุกไว้ในมุมมืดของกระเป๋าตังค์
กลับบ้านก็เอาไปหยอดใส่กระปุกหรือกระป๋องที่เราเตรียมไว้ พอกระปุกเต็ม
หรืออาจจะครบระยะเวลาที่เรากำหนดก็นำเงินส่วนนี้ไปฝากธนาคาร ง่ายม้๊ยคะสมัยนี้
แบงก์ 50 บาทก็เรียกได้ว่ายังเป็นแบงก์ที่ได้ไม่บ่อย คนใช้ไม่เยอะ คิดซะว่าเป็นของหาย าก
ต้องเก็บรั ก ษ า ถึงเดือนหรือทุก 2-3 เดือนก็เอาไปฝากธนาคาร
บางคนใช้วิธีนี้เก็บเงินได้เป็นหมี่นๆ นำเงินเก็บไปเที่ยวต่างประเทศได้เลยก็มีค่ะ
8. เอาชนะใจตัวเอง
สิ่งที่ย ากที่สุดสำหรับการออมเงิน คิดว่าคงเป็นการเอาชนะใจตัวเอง ไม่ซื้ อ ไม่ใช้ ไม่เอาเงิน
ในกระปุกออกมาใช้จ่ายแต่จะทำยังไงล่ะถึงจะบังคับตัวเอง สร้างวินัยในการออมเงินใหม่ได้?
วิธีการ: สร้างเป้าหมายระยะย าวสำหรับการออมเงินให้ตัวเอง ว่าเราต้องการออมเงินเพื่ออะไร
ซื้ อ บ้ า น ซื้ อ รถดูแลครอบครัวซื้ อ คอนโด ฯลฯ มีเป้าหมายชัดเจนในการออมเงิน
แล้วใช้เป้าหมายนี้เตือนตัวเองว่าเราต้องออมเงินไปเพื่ออะไร หากเรามีเป้าหมายชัดเจน
สำหรับการออมเงิน ว่าเราต้องการออมเงินไปเพื่ออะไรแม้ว่าจะเป็นการออมเงินเพื่อการมีเงินสะสม
เพื่ออนาคตที่สุขสบาย ก็ยังเป็นเป้าหมายที่ดีค่ะแล้วเราก็ใช้เป้าหมายเหล่านี้แหละค่ะมาเตือนตัวเอง
เวลาเราคิดจะแคะกระปุกเอาเงินไปใช้ว่าเราอุตส่าห์อดทนออมเงินเพื่ออะไรกันแน่
พอเรานึกถึงเป้าหมายแล้ว รับรองว่าสามารถเอาชนะใจตัวเองได้แน่นอนค่ะ
9. หยอดกระปุกออมสิน
หยอดกระปุก เรื่องเด็กๆ แต่บางคนหยอดกระปุกก็จริงแต่ก็แคะกระปุกมาใช้ตลอด
แบบนี้ก็เก็บเงินไม่อยู่เหมือนกันนะคะ จริงๆ แล้วการหยอดกระปุก จะให้ดี
เราควรทำการแบ่งกระปุกออกเป็นหลายๆ จุดประสงค์ แต่ละกระปุกก็มีเป้าหมายที่แตกต่างกันไป
วิธีการ: หากระปุกออมสินมาหลายๆ ใบ นำกระดาษเขียนจุดประสงค์การเก็บเงินของแต่ละกระปุก
มาแปะไว้ที่กระปุก เช่น สำหรับเที่ยวสงกรานต์ปี 59 ซื้ อ นาฬิกาใหม่ ซื้ อ โทรศัพท์ใหม่
ซื้อแล็บท็อปใหม่ เป็นต้นอย่ าลืมแบ่ง 1 กระปุกไว้สำหรับการออมเงินด้วยนะคะ
คุณอาจจะแบ่งหยอดกระปุก วันละ 10-20 บาทต่อกระปุก หยอดโดยแบ่งจาก
จำนวนเงินที่เหลือใช้รายวัน รายสัปดาห์ก็ได้ค่ะ ทีนี้ก็มีเงินสะสมเพื่อใช้ซื้ อโน่นนี่แล้ว
ยังมีแล้วแบ่งเงินหยอดกระปุกสำหรับการออมเงินอีกด้วยค่ะ ได้ประโยชน์รอบตัวเลย